วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ฉีดก่อนไม่ต้องรอโดนกัด
วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนับบ้า ควรฉีดตอนไหน?
โรคพิษสุนัขบ้าเป็นเชื้อไวรัสที่เข้าทำลายประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดโรคทางระบบประสาทและทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ การติดเชื้อมักเกิดจากการแพร่ผ่านทางน้ำลายเข้าสู่บาดแผล ปาก หรือดวงตา ซึ่งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดสามารถติดเชื้อ และเป็นตัวแพร่เชื้อได้
การป้องกันตนเองและบุตรหลานที่สามารถทำได้ง่ายที่สุดคือ การไม่ถูกสัตว์กัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่ไม่รู้จัก นอกจากนี้ วิธีป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่ง่ายที่สุด คือการฉีดวัคซีนป้องกันแบบก่อนสัมผัสโรค คือฉีดก่อนที่จะถูกสัตว์กัดหรือข่วน โดยทุกคนสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ได้ที่โรงพยาบาลรวมชัยประชารักษ์
วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ต้องฉีดกี่เข็ม?
การฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า จะฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อ จำนวน 2 เข็ม โดยฉีดครั้งละ 1 เข็ม ในวันที่ 0 และ 7
ข้อดีของการฉีดวัคซีนก่อนสัมผัสเชื้อ
หากได้รับการฉีดวัคซีนก่อนการสัมผัสเชื้อ หรือก่อนโดนสัตว์กัด จะมีประโยชน์ดังนี้
- ไม่ต้องฉีด Immunoglobulin รอบบาดแผล
การฉีดอิมมูโนโกลบูลิน (Immunoglobulin) เป็นการให้ภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคพิษสุนัขบ้าหลังโดนสัตว์กัด โดยอิมมูโนโกลบูลินสามารถทำลายเชื้อไวรัสบริเวณแผลได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังฉีด หากแพทย์พิจารณาฉีดอิมมูโนโกลบูลินร่วมกับการให้วัคซีน จำเป็นต้องฉีดอิมมูโนโกลบูลินโดยเร็วที่สุดและฉีดเพียงครั้งเดียว โดยฉีดบริเวณในและรอบบาดแผล โดยขนาดที่ให้จะปรับตามน้ำหนักตัวของผู้ป่วย
- เมื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าครบแล้ว หากโดนสัตว์กัดหรือข่วน จะฉีดกระตุ้นเพียง 2 เข็ม เท่านั้น คือในวันที่ 0 และ 3 (แต่หากยังไม่เคยรับวัคซีนป้องกันมาก่อน จะต้องฉีดจำนวน 5 เข็ม และฉีดอิมมูโนโกลบูลิน รอบๆ แผลทุกแผล)
หลังฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าแล้ว
หากโดนสัตว์เลียบริเวณเยื่อบุ บาดแผล หรือกัดข่วน
ควรมาพบแพทย์ เพื่อฉีดวัคซีนกระตุ้นทุกครั้ง
เมื่อถูกสุนัข แมว หรือสัตว์เลือดอุ่นกัด ข่วน หรือเลียที่บาดแผล ควรทำอย่างไร?
- ล้างแผล ด้วยน้ำสะอาด และสบู่เบาๆ หลายๆ ครั้ง
- เช็ดแผลให้แห้ง แล้วใส่ยาฆ่าเชื้อ
- กักสัตว์ที่กัด เพื่อสังเกตอาการ 10-15 วัน
- รีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลรวมชัยประชารักษ์
แผนกผู้ป่วยนอก 02-7087501-10